Rapitest 3-Way Digital Analyzer รุ่น 1835 เครื่องวัดคุณภาพของดินระบบดิจิตอล (pH + ผลรวม NPK ในดิน+อุณหภูมิ)

Rapitest 3-Way Digital Analyzer รุ่น 1835 เครื่องวัดคุณภาพของดินระบบดิจิตอล (pH + ผลรวม NPK ในดิน+อุณหภูมิ) 

เครื่องมือสำหรับวัด คุณภาพของดิน สามารถใช้วัดค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH ของดิน) + ผลรวม NPK ในดิน และ อุณหภูมิของดิน

ใช้ตรวจสอบสภาวะของแปลงปลูก ทั้งกลางแจ้งหรือในโรงเรือน เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนเตรียมและปรับสภาพดินก่อนปลูกพืช หรือปรับปรุงสภาวะต่างๆ ให้เหมาะสมกับชนิดของพืชที่ปลูกหรือวางแผนจะปลูก เหมาะกับเกษตรกรสมัยใหม่ และบุคคลทั่วไปที่รักการปลูกต้นไม้เป็นงานอดิเรก

ประกอบด้วย:
Rapitest 3-Way Digital Analyzer รุ่น 1835, คู่มืออธิบายวิธีการใช้ ซึ่งจะมี ตารางค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับพืชกว่า 350 ชนิดและ เทคนิคการปรับ pH และ ธาตอาหารให้เหมาะกับพืช

ใช้พลังงานจาก ถ่านกระดุม แบตเตอรี LR44 หรือ SR44 จำนวน 3 ก้อน

ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ค่าที่วัดได้มีความถูกต้อง เชื่อถือได้

ทำไมต้องวัด pH ของดิน?
ระดับ pH ของดินที่เหมาะสม จะช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดจะมีช่วง pH ที่เหมาะสมกับการเติบโตต่างกันออกไป การที่เราทราบ pH ของดินที่เราจะปลูก จะช่วยให้สามารถเลือกชนิดของต้นไม้ที่จะปลูกได้อย่างเหมาะสมกับผืนดินที่มีอยู่ หรือแม้กระทั่งสามารถตัดสินใจปรับปรุงดินให้มีสภาพเหมาะสมกับพืชที่ต้องการปลูกก็ได้ด้วยเช่นกัน

ทำไมต้องวัดสภาพดิน?
ต้นไม้ก็เช่นเดียวกับร่างกายของเราที่ต้องการธาตุอาหารเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต ดังนั้นหากเราทราบปริมาณธาตุอาหารในดินจะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเลือกชนิดของปุ๋ยมาใช้กับต้นไม้ที่เราปลูกได้อย่างเหมาะสม

ควรวัดคุณภาพดินเมื่อไหร่?
จริงๆ ควรวัดตลอดช่วงเพาะปลูก โดยเฉพาะช่วงเตรียมแปลงก่อนเพาะปลูกหรือช่วงที่สังเกตว่าพืชโตช้าหรือไม่โต เป็นต้น

วิธีการใช้งานเบื้องต้นเครื่องวัดคุณภาพดิน Rapitest 3-way Analyser รุ่น 1835

ข้อควรระวัง

• ในการใช้งาน ไม่ควรปักขั้ววัดลงบนดินที่แห้งและแข็งโดยตรง เพราะจะทำให้หัววัดหักได้
• ในการวัด pH และ ระดับปุ๋ยในดิน (Soil Fertility) จะต้องพรวนดินและรดน้ำให้เปียกชุ่มเสียก่อน ค่าที่วัดได้จึงจะถูกต้องที่สุด หากดินแห้งจะวัดค่าไม่ได้ หรือไม่ถูกต้อง

การใช้งานเบื้องต้น

1. กดปุ่มเปิดเครื่อง
2. เลือกค่าที่ต้องการวัดโดยกดปุ่มที่ลูกศร ขึ้น ลง เพื่อเลือกสิ่งที่ต้องการวัด สังเกตุลูกศรที่หน้าจอ
3. หากไม่มีการใช้งานเครื่องจะปิดอัตโนมัติใน 4 นาที เพื่อประหยัดแบตเตอรี่

การวัด pH ของดิน

1. เอาหน้าดินออกประมาณ 2 นิ้ว จากนั้นพรวนดินให้ลึกลงไปประมาณ 5 นิ้ว เก็บหิน และอินทรียวัตถุอื่นๆ ทิ้งไป เพราะจะมีผลต่อค่าที่วัดได้
2. รดน้ำให้เปียกชุ่มจนเป็นโคลน คลุกเคล้ากันให้ทั่ว
3. ใช้ใยขัด ทำความสะอาดขั้ววัดโลหะ เช็ดคราบที่ติดออก
4. เปิดเครื่อง เลื่อนลูกศรไปที่ pH จากนั้นจึงปักขั้ววัดลงบนดินที่เตรียมไว้ ลึกลงไป 4-5 นิ้ว ที่ รอประมาณ 60 วินาที จึงอ่านค่า ถ้าค่าที่อ่านได้ครั้งแรกมากกว่า 7 ให้เช็ดทำความสะอาดขั้ววัดใหม่แล้ววัดอีกครั้งในตำแหน่งใหม่ แต่ถ้าค่าที่อ่านได้น้อยกว่า 7 ไม่ต้องทำความสะอาด แต่ให้เปลี่ยนตำแหน่งเพื่อเทียบค่ากับตำแหน่งแรก

การวัดระดับปุ๋ยในดิน (Soil Fertility)

1. เอาหน้าดินออกประมาณ 2 นิ้ว จากนั้นพรวนดินให้ลึกลงไปประมาณ 5 นิ้ว เก็บหิน และอินทรียวัตถุอื่นๆ ทิ้งไป เพราะจะมีผลต่อค่าที่วัดได้
2. รดน้ำให้เปียกชุ่มจนเป็นโคลน คลุกเคล้ากันให้ทั่ว
3. ใช้ใยขัด ทำความสะอาดขั้ววัดโลหะ เช็ดคราบที่ติดออก
4. เปิดเครื่อง เลื่อนลูกศรไปที่ Fertility จากนั้นจึงปักขั้ววัดลงบนดินที่เตรียมไว้ ลึกลงไป 4-5 นิ้ว ที่ รอประมาณ 60 วินาที จึงอ่านค่า แปลผลได้ดังนี้
   • 0-2 ระดับปุ๋ยในดินต่ำหรือน้อยเกินไปสำหรับปลุกพืช N< 50 ppm, P< 4 ppm, K< 50 ppm
   • 3-7 ระดับปุ๋ยในดินมีพอดีเหมาะสำหรับปลูกพืช N 50-200 ppm, P 4-14 ppm, K 50-200 ppm
   • 8-9 ระดับปุ๋ยในดินมีมากเกินไป/ดินเค็ม ไม่เหมาะสำหรับปลูกพืช N >200 ppm, P >14 ppm, K >200 ppm 

รับประกันสินค้า 3 เดือน การเสียที่ตัวเครื่องไม่ใช่การทำตกแตก ตกน้ำ หรือชำรุดโดยผู้ใช้เปลี่ยนตัวใหม่ให้ฟรีครับ 

รายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ 086-6586628